ชิปปิ้ง ในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการเข้ามาของเทคโนโลยี ซึ่งมีผลให้พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนเปลี่ยนไป
นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกต่างๆ ก็ส่งผลต่อวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน เช่น การระบาดของโรค Covid-19 ทำให้ผู้คนมีความตื่นตัว มีความต้องการด้านความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น รวมทั้งหันมาใช้บริการแบบ Delivery มากกว่าการออกไปเดินตามห้างสรรพสินค้าด้วยตนเอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมทั่วโลก
ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวและตามเทรนด์โลกให้ทัน โดยการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและความนิยมในปัจจุบัน
วันนี้ Hand Shipping ได้รวบรวมแนวโน้มเทรนด์การตลาดดิจิทัล ที่กำลังมาแรงในปี 2020 นี้ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดของธุรกิจให้ทันสมัยและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นตลอดปีนี้
1. การทำการตลาดแบบ Personalization
การทำการตลาดส่วนบุคคล หรือ One to One Marketing เป็นแนวคิดและวิธีการที่พยายามนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับใจของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เช่น E-mail Marketing ที่จะเป็นการส่งอีเมลหาลูกค้า โดยจะระบุชื่อลูกค้าในหัวอีเมลตามข้อมูลที่มีในระบบ เป็นต้น
แต่ในปี 2020 นี้ การทำการตลาดแบบ Personalization จำเป็นต้องครอบคลุมหลาย Touchpoint (จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของแบรนด์) เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยที่ไม่จำกัดแค่ช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ Data และเครื่องมือในการจัดเก็บและนำไปใช้ได้หลากหลาย เช่น CRM ระบบโฆษณา ระบบหน้าร้านหรือจุดให้บริการ เป็นต้น เพื่อเป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติในฐานะปัจเจกบุคคลไม่ใช่ กลุ่มลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ตรงใจมากยิ่งขึ้นด้วย
2. ทุ่นแรงและประหยัดเวลาด้วย Automation
ในปี 2020 นี้ ได้มีการนำ Automation มาใช้งานแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติที่ไม่จำเป็นต้องตอบโต้หรือสั่งงานจากมนุษย์ในทุกครั้งที่มีการทำงาน ทำให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทำงานซ้ำๆ แม้ในกระบวนการที่มีความเฉพาะเจาะจงหรือมีการกำหนดขั้นตอนและตัวแปรต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น การแจ้งเตือนอัตโนมัติ ในกรณีที่ลูกค้าเลือกสินค้าในหน้าเว็บไซต์ E-Commerce และหยิบของลงตะกร้า แต่ยังไม่ชำระเงิน แล้วออกจากเว็บไซต์ไปก่อน จากนั้นมีอีเมลส่งไปแจ้งเตือนให้ลูกค้าเข้าไปชำระเงินจากระบบแบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นเพิ่มโอกาสให้ปิดการสั่งซื้อได้มากขึ้น
3. เน้น Messaging App มากขึ้น
ปัจจุบันพฤติกรรมการสื่อสารของผู้คนเปลี่ยนไป จากการสื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ผ่าน Social Media ได้หันมาให้ความสำคัญกับการส่งข้อความสื่อสารกับคนกลุ่มเล็กๆ มากขึ้น เช่น การเปิดตัว Messaging App Spin-Off ของ Instagram หรือการเพิ่มฟีเจอร์และลูกเล่นต่างๆ ของ Messengers และ WhatsApp เป็นต้น ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้แอปจริงในแต่ละเดือนเติบโตสูงกว่า Social Media ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เท่าทันและเน้นการเชื่อมต่อกับลูกค้ากลุ่มเล็กๆ เพิ่มขึ้น
4. ยุคทองของ Podcast
Podcast เป็นรายการเผยแพร่เสียงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยจะมีผู้ดำเนินรายการออกมาเล่าเรื่องหรือพูดคุยในราวเรื่องต่างๆ คล้ายกับฟังรายการในวิทยุ แต่มีความพิเศษคือจะมีการแบ่งเรื่องราวออกเป็นตอนๆ หรือแบ่งหัวเรื่องอย่างชัดเจน มีทั้งนักสื่อสาร ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นออกมาแสดงความสามารถมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากในปี 2019 และมีสปอนเซอร์แบรนด์ใหญ่ๆ มาสนับสนุนรายการดังบน Podcast มากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ที่ต้องการเจาะกลุ่มตลาดคนในเมือง ควรเริ่มลองฟัง Podcast เพื่อศึกษาความสนใจ และความนิยมของคนกลุ่มนี้มากขึ้น
5. ให้ความสำคัญกับ Data Privacy
หลังจากที่ประกาศใช้ พระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ผู้ประกอบการจึงต้องเตรียมพร้อมและระมัดระวังในการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยจะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยและเป็นเจ้าของข้อมูลของตนเอง การทำการตลาดที่เป็นการคุกคามสิทธิและความเป็นส่วนตัวของลูกค้าไม่สามารถทำได้อีกต่อไป แถมยังมีโทษเป็นกฎหมายอีกด้วย
6. Eco-friendly ต้องมีทุกแบรนด์
Eco-friendly เป็นความรับผิดชอบต่อโลกและสิ่งแวดล้อมผ่านผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการทำลาย ซึ่งกลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกแบรนด์ในปี 2020 นี้ สำหรับผู้บริโภคเองก็มีความรู้และความเข้าใจในกระแสรักษ์โลกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันโดยเฉพาะ 3 ประเทศในเอเชียที่มุ่งสู่ความเป็น Green Logistics ดังนั้นการบริหารธุรกิจให้รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ควรสร้างการรับรู้และนำเสนอแนวคิดของแบรนด์ให้ลูกได้ทราบด้วย นอกจากจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นการสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การสร้างจุดขายให้กับแบรนด์ จะต้องตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของธุรกิจด้วย รวมทั้งหมั่นติดตามเทรนด์ธุรกิจเสมอ เพื่อที่จะสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์ได้อย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีความสำคัญต่อวงการธุรกิจและ E-Commerce อีกทั้งยังส่งผลต่อต้นทุนสินค้าและบริการโดยตรง ผู้ประกอบการจึงควรสร้างพันธมิตรกับบริษัทขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น
Hand Shipping ตัวแทนชิปปิ้งจีนมืออาชีพ บริการนำเข้าสินค้าจากจีนได้มาตรฐานด้วยระบบทันสมัย สามารถติดตามสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางเว็บไซต์ จัดส่งตรงเวลา จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการเสมอมา
ที่มา: creativetalk