Shipping จีน เป็นที่คาดการณ์กันว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ ธุรกิจ E-Commerce มีแววว่าจะกลายเป็นช่องทางการขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก คนทั่วโลกโลกยังคงสนุกกับการช็อปปิ้งออนไลน์มากกว่าการออกไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้า
โดยเฉพาะชาวอเมริกัน โดยทาง Statista ได้ทำนายไว้ว่า ชาวอเมริกันจะหันมาจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์เป็นจำนวนถึงล้านล้านคนในปี 2023
และต่อไปนี้คือ 40 สถิติของธุรกิจด้าน E-Commerce ที่น่าสนใจและเราเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณ แอดมินรวบรวมข้อมูลมาไว้ที่นี่แล้ว
- Nasdag ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ได้ประมาณการณ์กันไว้ว่า ผู้บริโภคจำนวน 95% จะซื้อสินค้าออนไลน์ภายในปี 2040
- เว็บไซต์ com ระบุว่า 87% ของนักช็อปปิ้งทุกวันนี้ เลือกดูรีวิวก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ และอีก 77% ของคนจำนวนนี้ ซื้อสินค้าออนไลน์จากการดูรีวิว
- ธุรกิจ E-Commerce คิดเป็นเพียง 5% เท่านั้นของการใช้จ่ายในทุกช่องทางการค้า และเติบโตเพียง 40% เท่านั้น (Nielsen)
- 26% ของตลาดธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น ที่พยายามจะสร้างร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง (Small Biz Trends)
- 72% ของธุรกิจ E-Commerce จะเข้ามาแทนที่อุปกรณ์สื่อสารในปี 2021 (Statista)
- ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ไว้ว่าธุรกิจ E-Commerce ทั่วโลก จะมียอดขายเพิ่มเป็น 2 เท่าระหว่างปี 2018-2023 ทุบสถิติที่ 6 ล้านล้านดอลล่าร์ (Statista)
- บ้านที่มีรายได้ต่อปีสูงถึง 50,000 ดอลล่าร์ มีการใช้จ่ายออนไลน์ในครัวเรือนราว 9.7% ส่วนบ้านที่มีรายได้ต่ำกว่า จะอยู่ที่ 4% (Washington Post)
- ยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์ในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) และวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า (Cyber Monday) เพิ่มสูงขึ้น 6% ในปี 2018 และมากกว่า 7.9 พันล้านของยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์เกิดขึ้นแค่ในวัน Cyber Monday (Washington Post)
- อัตราเฉลี่ยของการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ E-Commerce อยู่ที่ 2-4% และจำนวน 43% ของการซื้อขายออนไลน์มาจากการค้นหาสินค้าที่เป็น Organic (Invesp)
- จำนวน 55% ของคนที่ช็อปปิ้งออนไลน์ กล่าวว่า ค่าขนส่งฟรี เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการตัดสินใจซื้อ (Pixel Union)
- 8 ใน 10 ของชาวอเมริกันเป็นนักช็อปปิ้งออนไลน์ และจำนวน 79% ซื้อสินค้าออนไลน์ทุกประเภท ซึ่งมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2002 มา 22% (Fit Small Business)
- มีการคาดคะเนเอาไว้ว่า จะมีจำนวนนักช็อปปิ้งในโลกดิจิตอลสูงขึ้นราว 230 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาในปี 2021 (Statista)
- 77% ของธุรกิจขนาดเล็ก ในสหรัฐอเมริกาใช้สื่อโซเชียลเป็นหัวใจหลักของการสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การลดราคาสินค้า การให้บริการลูกค้า และทำการตลาด (PR Newswire)
- 23% ของชาวอเมริกันกล่าวว่า พวกเขามีการช็อปออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นใน 2018 และอีก 11% คนกลุ่มนี้เปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นในปี 2019 (Brookings)
- โดยประมาณการ์ณไว้ว่า ยอดขายของธุรกิจ E-Commerce ของสหรัฐอเมริกา จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 690.84 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2020 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 891.7 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2022 (EMarket)
- 79% ของนักช็อปออนไลน์สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การขนส่งฟรีจะทำให้พวกเขาอยากซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น (Walker Sands)
- เว็บไซต์ที่ใช้เวลาในการดาวน์โหลดเกิน 3 วินาที จะทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เป็นครั้งแรกเลิกรอ สูงถึง 40% (Forbes)
- 51% ของผู้บริโภคในอังกฤษ กล่าวว่าพวกเขาชอบซื้อของออนไลน์มากกว่าการไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า (Ecommerce News UK)
- นักช็อปปิ้งออนไลน์ในอังกฤษ ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 87% ในการซื้อสินค้าปลีก (Ecommerce News EU)
- 57% ของนักช็อปปิ้งออนไลน์ กล่าวว่าพวกเขาจะเลือกซื้อของบางอย่างจากร้านค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะของที่หาซื้อไม่ได้ในประเทศของตัวเอง (Nielsen)
- 74% ของคนยุคนี้ค้นหาข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เมื่อต้องการพิจารณาซื้อสินค้าอะไรบางอย่าง (Tapinfluence)
- 18% ของการค้นหาสินค้าเมื่ออยู่ต่างจังหวัด จะนำไปสู่การซื้อสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง (Researchgate)
- 85% ของลูกค้าเริ่มซื้อสินค้าจากอุปกรณ์สื่อสารอย่างหนึ่ง แต่ไปจบที่อุปกรณ์สื่อสารอีกอย่างหนึ่ง (Think with Google)
- Facebook ยังคงเป็นโซเชียลมีเดียที่ทรงพลังมากที่สุดของการครองสถิติการซื้อขายออนไลน์ โดยปี 2018 พบว่า นักช็อปปิ้งอยู่ในวัย 18-34 ปีถึง 78% และใช้วิธีค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการในเฟสบุ๊คก่อนเป็นอันดับแรก (Axios)
- 65% ของผู้บริหารอาวุโส จะคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ หลังจากที่เห็นวีดิโอที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ต้องการใน YouTube (HubSpot)
- 75% ของลูกค้าให้ความสำคัญกับโฆษณา ที่มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายซ้ำอีกครั้ง (Invesp)
- การช็อปปิ้งทางสมาร์ทโฟน เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมและก้าวกระโดดจาก 8% ไปสู่ 15% ในปี 2019 ในขณะที่การช็อปปิ้งบน PC ร่วงหล่นจาก 78% มาอยู่ที่ 63% (Invesp)
- การมองเห็นของธุรกิจขนาดเล็กผ่านทางโทรศัพท์มือถือเพิ่มสูงกว่าร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ถึง 30% (Practical Ecommerce)
- 10% ของนักช็อปปิ้งออนไลน์ ใช้ผู้ช่วยด้านเสียง (อุปกรณ์ยอดนิยมของชาวอเมริกัน) เพื่อทำการซื้อสินค้าบางประเภท (NPR/Marist)
- มีเพียง 2% ของเจ้าของ Alexa หรือผู้ช่วยอัจฉริยะสั่งการอุปกรณ์ภายในบ้าน เคยใช้มันในการซื้อของออนไลน์ (Forbes)
- 98% ของข้อความทางการตลาด ที่ถูกส่งผ่าน SMS ถูกเปิดอ่าน (Search Engine Journal)
- การใช้เสียงในการค้นหาบางอย่างที่คุณต้องการ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นถึง 20% ใน Google App (Social Media Today)
- ยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์ในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) และวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า (Cyber Monday) เพิ่มสูงขึ้น 6% ในปี 2018 และมากกว่า 7.9 พันล้านของยอดขายสินค้าลดราคาออนไลน์เกิดขึ้นแค่ในวัน Cyber Monday (Washington Post)
- จำนวน 55% ของคนที่ช็อปปิ้งออนไลน์ กล่าวว่า ค่าขนส่งฟรี เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการตัดสินใจซื้อ (Pixel Union)
- 69% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีแนวโน้มในการซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่ให้ตอบคำถามที่เขาต้องการได้รวดเร็วและใส่ใจ (Blue Corona)
- ผลการสำรวจจากสถาบันวิจัย Baymard (สถาบันวิจัยการใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ) ในปี 2017 พบว่า 89% ของลูกค้าเลิกใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ (Visual)
- 40% ของธุรกิจขนาเล็ก ไม่มีเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเอง (Visual Objects)
- 89% ของผู้ซื้อแบบ B2B (Business-to-Business หมายถึง การที่ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการจากธุรกิจหนึ่ง เพื่อนำไปผลิตต่อด้วยการเพิ่มคุณค่าให้เป็นสินค้าและบริการอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่นำไปอุปโภคหรือบริโภคเอง) จะทำการค้นหาสินค้าออนไลน์เมื่อพวกเขาต้องซื้อสินค้า (Researchgate)
- 5% ของธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดกลาง เชื่อว่า การขนส่งฟรีจะเพิ่มกำไรในการขายสินค้า (Mutichannel Merchant)
- ส่วนประเทศที่มีค่าเฉลี่ยในการซื้อของเล่นสูงสุด ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน คลิกอ่านต่อได้ที่ 7 ประเทศที่มียอดสั่งซื้อของเล่นสูงสุดในโลก