ชิปปิ้ง มีการประมาณการณ์ไว้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนอยู่ที่ประมาณ 11,795,297 พันล้านสหรัฐฯ นับเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา
โดยจีนเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกมาตั้งแต่ปี 2009 โดยคิดเป็นมูลค่าส่งออกต่อปีเท่ากับ 1.904 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
ปัจจุบัน หลายประเทศได้มีการนำเข้าหรือชิปปิ้งสินค้าจากจีน เช่น ไทย นำเข้าสินค้าจากจีนเป็นอันดับ 1 ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อตกลงทางการค้า ACFTA ทำให้ไทยและประเทศในอาเซียนนำเข้าสินค้าจากจีนได้โดยไม่เสียภาษี ด้านจีนนำเข้าสินค้าสูงสุดจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน สหรัฐฯ และเยอรมนี ส่วนประเทศที่จีนส่งออกสูงสุดคือ สหรัฐฯ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอัปเดตเมื่อเดือน มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา พบว่า สินค้านำเข้าและส่งออกหลักๆ ของจีน ประกอบด้วย
- ผ้าฝ้าย
จีนเป็นผู้ผลิตผ้าฝ้ายหรือเส้นใยคอตตอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน ทั้งในด้านการผลิตและส่งออกโดยรวม ปัจจุบันมี 24 จังหวัดในประเทศจีนที่เป็นแหล่งปลูกฝ้ายและอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นแหล่งจ้างแรงงานประมาณ 300 ล้านคนในประเทศ
- ชา
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นแหล่งผลิตชารายใหญ่ที่สุดของโลก และจีนเองก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการผลิตชาระดับโลกด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว ชาจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส แต่ด้วยสภาพอาการที่หนาวเย็นของจีน จึงอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตชาในบางปี นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้ยกเลิกระบบโควตาและจำกัดใบอนุญาตสำหรับการส่งออกชา ทำให้ปริมาณการส่งชาโดยบริษัทเอกชนเติบโตขึ้นควบคู่ไปกับการที่รัฐบาลส่งออกเองด้วย
- ข้าว
จีนเป็นประเทศที่มีการนำเข้าข้าวเป็นอันดับ 2 ของโลกและสามารถผลิตข้าวได้ปีละประมาณ 143 ล้านตัน ข้อมูลจากกมศุลกากรจีน เผยว่า จีนส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ ฮ่องกง และมาเลเซียตามลำดับ นอกจากนี้ ได้กำหนดโควตานำเข้าข้าว 5.32 ล้านตัน โดยจีนนำเข้าข้าวจากไทยเป็นส่วนใหญ่ ผ่านเมืองเซินเจิ้นและกว่างโจว
- ถั่วเหลือง
ด้วยจำนวนประชากรจีนที่มากที่สุดในโลก ทำให้จีนครองตำแหน่งผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบผลิตเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง และอาหารสัตว์ ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศที่มีความต้องการถั่วเหลืองสูงสุด 1 ใน 3 ของโลก อย่างไรก็ตาม บราซิล และอาร์เจนตินา เป็นประเทศที่มีสภาพอากาศและดินที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกถั่วเหลืองมากที่สุดในโลก ทำให้กลายเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปอย่างขาดลอย
- น้ำมันดิบ
จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยปีละ 116,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น 17% ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั่วโลก
- แร่เหล็ก
แร่เหล็ก ยังเป็นสินค้าอีกประเภทหนึ่งที่จีนมีการนำเข้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยนำไปแปรรูปเป็นเหล็กกล้าเกรดพรีเมี่ยม อีกทั้งยังพยายามปรับปรุงประเทศให้เป็นเมืองสีขาวหลังจากต้องเผชิญกับสภาวะหมอกควันพิษมาเกือบทุกปี ซึ่งโครงการก่อสร้างของจีนนั้น จำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อประเทศ ปัจจุบัน มากกว่า 67% จีนมีการนำเข้าแร่เหล็กจากทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าประมาณ 57 พ้นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ทั้งยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น โดยคิดเป็น 8.5% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดที่ 7.2 พ้นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าและส่งออกสินค้านั้น เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลให้รอบคอบ เช่น ความเสี่ยงของการนำเข้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย (คลิกอ่านเพิ่มเติม 5 ความผิดทางศุลกากรที่พบได้บ่อย) นอกจากนี้ ควรเลือกชิปปิ้งที่ได้มาตรฐานและมีประสบการณ์ยาวนาน เพื่อช่วยให้การนำเข้าและส่งออกเป็นไปอย่างราบรื่น
ที่มาข้อมูล : https://commodity.com/china/